แบกเป้เที่ยว "วังเวียง"

เที่ยว "วังเวียง" รีวิวการเดินทางสำหรับคนที่อยากไปสัมผัสธรรมชาติ

          การเดินทางไปลาวในครั้งนี้ยุ้ยและเพื่อนๆเลือกที่จะเดินทางไปวังเวียงกัน เนื่องจากเห็นรีวิวแล้วน่าเที่ยว และจบทริปที่
นครหลวงเวียงจันทร์
          เริ่มต้นจากการศึกษา ดูรีวิวต่างๆ จากหลายๆเว็ป และวางแผนการเดินทางกัน ตกลงวันเดินทางกันคือวันที่ 28 เม.ย. - 2 พ.ค. 62
ซึ่งเราตกลงเดินทางโดยเครื่องบินไปลงที่อุดรฯ และนั่งรถบัสต่อจากอุดรฯไปวังเวียง (รถจากอุดรฯไปวังเวียงมีแค่วันละ 1 เที่ยวเท่านั้น
ซึ่งรถจะออกจาก บขส.อุดรฯเวลา8.30 น.)
          เราเริ่มจากการจองตั๋วเครื่องบิน ทริปนี้เราเดินทางด้วยสายการบิน Air Aisia ซึ่งเราโชคดีมากที่ไฟล์ทที่เราต้องการลดราคาในวันนั้น จาก 790/คน เหลือ 520/คน 
          เราจองตั๋วเครื่องบินไฟล์ท 6.05 น.ซึ่งจะถึงอุดรเวลาประมาณ 7.10 น. (เราเลือกที่จะไม่โหลดกระเป๋า เพราะฉะนั้นเราจะแบกกระเป๋าขึ้นเครื่องได้แค่ 2 ใบ รวม 7kg เท่านั้น) พอจองตั๋วเครื่องบินเสร็จก็ต้องจองรถบัส เราเลือกที่จะโทรถาม บขส.ก่อนว่าจะจองตั๋วต้องทำอย่างไรบ้าง ทางบขส. ให้เราเอาพาสปอร์ตไปซื้อตั๋วที่เคาท์เตอร์ที่ บขส.ด้วยตัวเอง แต่พวกเราไม่มีใครสะดวกที่จะไปจอง ยุ้ยเลยลองเซิร์ชหาข้อมูล ก็ไปเจอเว็ปสำหรับสำรองที่นั่งของรถ บขส. ชื่อ Busticket.in.th ซึ่งจะมีค่าดำเนินการด้วย ยุ้ยและเพื้อนๆเลือกที่จะจองตั๋วรถผ่านเว็ปนี้เลยค่ะ ซึ่งจองได้แค่ครั้งละ 4 ที่นั่งเท่านั้น เราจึงต้องทำการจอง 2 ครั้ง ค่าตั๋วคนละ 320 บาท ค่าประกันภัยคนละ 20 บาท ค่าดำเนินการคนละ 20 บาท รวมค่ารถคนละ 360 บาท เราสามารถระบุที่นั่งได้เลยนะ (สามารถปริ้นตั๋วจากหน้าเว็ปได้เลย)

เตรียมตัวรอขึ้นเครื่องบินกันจ้าาาาา
            ก่อนถึงวันเดินทาง 1 วัน ยุ้ยเลือกที่จะเช็คอินผ่านแอปของ
   Air asia (สามารถเช็คอินก่อนวันเดินทางได้ 14 วัน) แล้วนำ
   คิวอาร์โค้ตที่ได้จากการเช็คอินผ่านแอปไปสแกนที่ตู้คีย์ออสเพื่อรับ
   บอร์ดดิ้งพาสได้เลย
           วันเดินทาง ยุ้ยและเพื่อนๆเดินทางไปขึ้นเครื่องที่สนามบิน
   ดอนเมือง ขึ้นเครื่องเวลา 5.30 น. ไฟล์ท FD3348 พอถึงสนามบิน
   อุดรฯ  ยุ้ยและเพื่อนๆก็ขึ้นรถแท็กซี่ของสนามบิน เราเลือกรถ
   ขนาดใหญ่ ค่ารถ 300 บาท







ขึ้นรถบัสไปวังเวียงกัน


          หลังจากที่ถึง บขส.อุดร เราก็นำตั๋วรถบัสที่ปริ้นจากเว็ปไปขึ้นรถ
ได้เลย ขึ้นรถที่ชานชาลาที่ 14 ซึ่งรถจะจอดรับคนอีกที่หนองคายนะ
          บนรถพนักงานจะแจกใบผ่าน ตม.ลาวให้เราเขียน เขียนทั้ง 2 ฝั่งเลยนะ และก็จะเก็บเงินค่าผ่านด่านคนละ 5 บาท พอรถมาถึง ตม.ไทยเราก็เดินไปเข้าแถวให้เจ้าหน้าที่ประทับตราที่เล่มพาสปอร์ต แล้วก็เดินผ่านด่านมาขึ้นรถคันเดิม ขึ้นรถข้ามสะพานมานิดนึงก็จะเป็น ตม.ลาว คราวนี้ให้เราใช้ใบผ่านด่านที่พนักงานแจกบนรถยื่นพร้อมพาสปอร์ต เค้าจะฉีกคืนมา 1 ส่วน (ใช้ในวันกลับ)
แอบกระซิบนิดนึง ใครที่ต้องการไปแค่เวียงจันทร์ ไม่จำเป็นต้องไปทำพาสปอร์ต ใช้แค่การขอใบผ่านแดนได้ แต่อยู่ได้แค่ไม่เกิน 3 วันนะจ๊ะ แต่ถ้าใครคิดว่าจะอยู่เกินกว่านั้น หรือจะไปไกลกว่าเวียงจันทร์ ต้องมีพาสปอร์ตนะ





ยื่นใบผ่าน ตม. ที่เขียนเรียบร้อยแล้วพร้อมเล่มพาสปอร์ต


ใบเสร็จค่าผ่าน ตม. ลาว 
        เดินผ่านช่องมานิดนึงจะมีเคาท์เตอร์เก็บเงินค่าผ่านแดน ให้เตรียมเงินไว้คนละ 50 บาท ปกติให้เราทำการแลกเงิน ซื้อซิมเน็ต ตรงด่านลาวนี้เลย แต่เนื่องวันที่เราไปรถช้ามาก เค้าจึงยังไม่ให้เราแลกเงินตรงนี้

          หลังจากผ่านด่านเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินขึ้นรถคันเดิมเลย นั่งมาเรื่อยๆสักพัก รถก็จะจอดให้เรากินข้าว แลกเงิน ซื้อซิมเน็ต (แนะนำว่าให้คำนวนเงินที่จะใช้แล้วแลกไปให้พอ เพราะถ้าไปแลกเพิ่มเติมที่วังเวียงจะโดนกดราคา)ซิมเน็ตเราใช้ของ Unitel มีแพ็คเกจหลายแบบ แล้วแต่เราจะเลือกสมัครเลย



ตั๋วรถไปเวียงจันทร์ 


        พอมาถึงจุดจอดรถที่วังเวียง เราก็เลือกที่จะจองตั๋วไปเวียงจันทร์
   ไว้เลย ค่ารถ50,000kip/คน ทางบริษัทรถจะมีรถมารับเราที่หน้า
   โรงแรมก่อนเวลารถออก 30 นาที 
        นี่คือการเดินทาง 1 วันเต็มๆสำหรับการไปวังเวียง คราวหน้า
   เราจะมาเล่าประสบการณ์ 4 วัน 3 คืน ในวังเวียงต่อน้าาาา...



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

One Day Trip in Vang Vieng วังเวียง 1 วัน ทำอะไรได้บ้าง

ค่ำแล้ว...นอนไหนดีนะ